ผมและเพื่อนนัดคุยกันเรื่องแผนการเที่ยวโตเกียวที่มอสเบอร์เกอร์ central world
แว่น : อากิบะ..
ผม : แล้วที่ไหนอีก
แว่น : โอไดบะ
ผม : มีอีกไหมที่อยากไป
แว่น : ไม่ละ ที่เหลือแล้วแต่นายเลย
ผม : .......
แว่น : ....
เที่ยวโตเกียวด้วยตัวเอง
เรานั่งรถไฟฟ้าใต้ดินไปโผล่ที่เซ็นทรัลพระรามเก้า จากนั้นจึงวิ่งโร่หาธนาคารว่าอยู่ตรงไหน ตอนเดินเที่ยวเฉยๆล่ะเห็นบ่อย พอจะใช้จริงๆกลับไม่รู้ว่าอยู่ตรงไหน
สุดท้ายก็เจอ เบิกเงินสดเรียบร้อย
นั่งรถไฟฟ้าใต้ดินกลับไปที่ศูนย์สิริกิตต์ เพื่อไปลุ้นซื้อตั๋วเครื่องบินไปญี่ปุ่นราคาถูก
ใช้เวลาไปชั่วโมงกว่า กับการไปเบิกเงินสด เอาล่ะ ตอนนี้เรามีเงินเต็มกระเป๋า พกความหวังมาเต็มปรี่ ตรงรี่เข้าไปที่บู๊ต airasia
พบว่าคิวยังไม่ว่าง เขาเปิดให้บัตรคิวจำนวนจำกัด ผมกับเพื่อนแว่นตั้งใจจะรอเอาให้ได้ อย่างน้อยเข้าไปสอบถามข้อมูลก่อนก็ยังดี และแล้วฟ้าก็เห็นใจสองสมันตัวน้อย ที่คอยตั๋วเครื่องบินอยู่
มีเจ้าหน้าที่ใจดีมาแจกบัตรคิวให้เราล่วงหน้า สามารถเข้าไปสอบถามได้เลย
และแล้วก็มาถึงคิวของเรา
ด้วยความที่ไม่เคยซื้อตั๋วดครื่องบินกันมาก่อนเลยทั้งคู่ ทำให้งานนี้สนุกสนานเป็นอย่างมาก พนักงานชาย แต่ใจหญิงต้อนรับเราอย่างน่าปวดหัว เราเองก็ปวดหัวกับตัวเองเหมือนกัน
สุดท้ายก็ได้ตั๋ว
หลังจากที่งงๆกับช่วงเวลาการเดินทาง สุดท้ายเราสองคนก็ได้ตั๋วเครื่องบินมา ราคาไปกลับคนละ 6,700 บาท รวมข้าวขาไปและน้ำหนักในตอนขากลับ
ผม : ได้ตั๋วมาแล้ว ไม่อยากจะเชื่อ
แว่น : อืม ก็ไม่คิดว่าจะได้เหมือนกัน
ผม : .....
แว่น : ...
ผม : ยังไม่ได้เก็บตังค์ไว่เที่ยวเลยว่ะ
แว่น : อ้าว ชิป รีบเลย อีก 3 เดือนเอง
แล้วเราก็ได้ใบจองตั๋วไปเที่ยวญี่ปุ่นวันที่ 13 พ.ย. ถึง 19 พ.ย. 58 มาไว้ในมือ ปัญหาต่อไปคือการจองที่พัก
ผมตั้งใจว่าจะไปเที่ยวญี่ปุ่นกับเพื่อนมาตั้งนานแล้ว แต่ก็ไม่ได้ไปเสียทีจนเวลาล่วงเลยมาหลายปี จนกระทั่งปี 2558 ก็ตัดสินใจที่จะคุยเรื่องนี้จริงๆจังๆ
ผม : ปีนี้เราไปเที่ยวญี่ปุ่นกัน
แว่น (เพื่อนผม) : ป่ะ
เดี๋ยวนะ บทสนทนามันก็เหมือนกันกับตอนที่คุยแล้วไม่ได้ไปนี่หว่า งั้นเอาใหม่
ผม : ไปจริงๆนะ เจอตั๋วถูกๆซื้อเลย แล้วค่อยหาเงินเพิ่มเอาอีกที
แว่น : ได้เลย สิงหา (58) นี้มีงานเที่ยวญี่ปุ่นที่ศูนย์สิริกิตต์
ผม : เจอถูกจองเลย ถ้าไม่ถูกก็ไม่เอา
ราคาตั๋วเครื่องบินถือเป็นค่าใช้จ่ายที่มากเป็นอันดับแรกถ้าคิดจะไปญี่ปุ่น ส่วนค่าที่พักเป็นอันดับสอง ค่ากินค่าเดินทางในญี่ปุ่นน่ะ จริงๆก็ไม่เท่าไหร่หรอก ดังนั้น ถ้าค่าตั๋วเครื่องบินประหยัดไปได้ก็เท่ากับเรามีเงินเหลือไปเพิ่มในส่วนอื่นได้อีก
เดือนสิงหาคม 58 ศูนสิริกิตต์
ที่นี่มีงานท่องเที่ยว เราตรงไปดูที่บู๊ต airaisa ก่อนเลย เพราะเป็นขวัญใจคนจนในการไปเที่ยวญี่ปุ่นอย่างแท้จริง แล้วเราก็มาเจอกับ โปรไปญี่ปุ่น 2,990 บาท
เฮ้ย! ไปกลับไม่ถึง 6,000 บาท ต้องเข้าไปสอบถามหน่อยเสียแล้ว ได้ความว่าตั๋วราคาเท่านี้จริงๆ รวมทุกอย่างแล้วด้วย ในใจคิดว่ามันจะเหลือถึงเราเหรอว่ะ แถมยังจองเป็นรอบๆ คิวยาวเหยียด
ผม : ยาวนะ ท่าจะไม่เหลือ เอาไงดี
แว่น : มาแล้วก็จองเลย
ผม : งั้นไปกดเงินกัน
แว่น : ไม่มีบัตรว่ะ ต้องไปเบิกที่เคาน์เตอร์
ผม : .........
แว่น : ....
ship หายละ วันอาทิตย์แบบนี้ ต้องไปเบิกที่หน้าเคาน์เตอร์ และธนาคารในห้างที่อยู่ใกล้ที่สุดที่จะไปด้วยรถไฟฟ้าใต้ดินต่อเดียวนั่นคือเซ็นทรัลพระรามเก้า
การเดินทางเริ่มขึ้นตั้งแต่ยังไม่ไปญี่ปุ่นเลยนะเนี่ย